ข้อกำหนดและเงื่อนไข

ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ TOYOTA Wallet Powered by SCB

ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ TOYOTA Wallet Powered by SCB


ผู้ขอใช้บริการตกลงใช้บริการ Toyota Wallet Powered by SCB ตามที่ได้รับอนุมัติจากธนาคาร และตามรายละเอียดการให้บริการที่ธนาคารกำหนด โดย ผู้ขอใช้บริการตกลงผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

1. คำนิยาม

  • 1.1 “ข้อกำหนดและเงื่อนไข” หมายความถึง ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ Toyota Wallet Powered by SCB
  • 1.2 “เครื่องมือเพื่อการทำรายการ” หมายความถึง โทรศัพท์มือถือ และ/หรือ เครื่องมืออื่นใดตามที่ธนาคารกำหนดเพื่อใช้ในการทำรายการ
  • 1.3 “ธนาคาร” หมายความถึง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่ธนาคารมอบหมายด้วย
  • 1.4 “บริการ E-Wallet” หมายความถึง บริการ Toyota Wallet Powered by SCB ซึ่งผู้ขอใช้บริการสามารถใช้บริการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยการสแกน QR Code ของผู้รับชำระเงินเพื่อชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการ แทนการชำระเงินด้วยเงินสด รวมถึงการบริการประเภทอื่นใดที่ธนาคารเปิดให้บริการหรือที่ธนาคารจะเปิดให้บริการแก่ผู้ขอใช้บริการเพิ่มเติมในภายหน้า ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้
  • 1.5 “บัญชีรับเงิน” หมายความถึง บัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการที่มีอยู่กับธนาคาร ที่ผู้ขอใช้บริการกำหนดให้เป็นบัญชีเพื่อการรับโอนเงินจาก E-Wallet ทั้งนี้ จะต้องเป็นบัญชีเงินฝากประเภทที่ธนาคารกำหนด หรือที่ธนาคารจะกำหนดเพิ่มเติมและ/หรือเปลี่ยนแปลงในภายหน้า
  • 1.6 “บัตรเครดิต” หมายความถึง บัตรเครดิตที่ผู้ขอใช้บริการกำหนดให้ผูกกับ E-Wallet เพื่อการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการ ผ่านบริการ E-Wallet
  • 1.7 “บัตรเดบิต” หมายความถึง บัตรเดบิตที่ผู้ขอใช้บริการกำหนดให้ผูกกับ E-Wallet เพื่อการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการ ผ่านบริการ E-Wallet
  • 1.8 “ผู้รับชำระเงิน” หมายความถึง บุคคลซึ่งใช้บริการร้านค้ารับชำระเงินกับธนาคาร และตกลงรับชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการจาก ผู้ขอใช้บริการผ่าน E-Wallet ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้
  • 1.9 “รหัสประจำตัว” หมายความถึง Login Name, Username, รหัสผ่าน (Password), PIN – Person Identification Number, ลายนิ้วมือ, ใบหน้า, เทคโนโลยีทางชีวภาพ (Biometric), รหัส OTP – One Time Password หรือรหัสอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใช้บริการ E-Wallet ไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่อใด ๆ และไม่ว่าจะเป็นรหัสที่ธนาคารเป็นผู้กำหนดให้ หรือเป็นรหัสที่ผู้ขอใช้บริการเป็นผู้กำหนดเองก็ตาม
  • 1.10 “รายการ” หมายความถึง คำสั่ง รายการ หรือธุรกรรมต่าง ๆ ที่กระทำผ่านระบบบริการ E-Wallet เช่น การชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการให้แก่ผู้รับชำระเงิน โดยให้ธนาคารหักเงินจาก E-Wallet เป็นต้น
  • 1.11 “เหตุสุดวิสัย” หมายความถึง เหตุใด ๆ อันอยู่นอกเหนือการควบคุมของธนาคาร ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการให้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ รวมถึงเป็นเหตุให้เกิดข้อขัดข้อง หรือข้อมูลผิดพลาด เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคาร หรือระบบสื่อสารขัดข้องเพราะกระแสไฟฟ้าขัดข้อง หรือปัญหาด้านพลังงาน การกระทำของบุคคลภายนอกใดๆ ไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลที่เป็นอันตรายต่าง ๆ (Harmful Data) ซึ่งเหตุดังกล่าวไม่ได้มีสาเหตุมาจากการที่ธนาคารไม่ดูแลรักษาระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคารอย่างเพียงพอตามมาตรฐาน
  • 1.12 “Application” หมายความถึง บริการ Toyota Wallet Application ของ Toyota
  • 1.13 “E-Wallet” หมายความถึง กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ขอใช้บริการที่ออกให้โดยธนาคารภายใต้ Application ซึ่งใช้ในการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการและผูกกับบัญชีรับเงิน
  • 1.14 “SCB Easy Application” หมายความถึง บริการ SCB Easy Application ของธนาคาร
  • 1.15 “Toyota” หมายความถึง บริษัท โตโยต้า อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่ Toyota มอบหมายด้วย

2. การใช้และการเก็บรักษารหัสประจำตัว ข้อมูลส่วนบุคคล และเครื่องมือเพื่อการทำรายการ

  • 2.1 ผู้ขอใช้บริการจะต้องรักษารหัสประจำตัว และข้อมูลส่วนบุคคล ไว้เป็นความลับและไม่เปิดเผยหรือกระทำการใด ๆ ที่อาจทำให้ผู้อื่นทราบรหัสประจำตัว และ/หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าว
  • 2.2 ผู้ขอใช้บริการจะต้องเก็บรักษาเครื่องมือเพื่อการทำรายการไว้เป็นอย่างดีในที่ปลอดภัย และผู้ขอใช้บริการจะต้องไม่ทำให้เครื่องมือเพื่อการทำรายการดังกล่าวตกอยู่ภายใต้การครอบครองของบุคคลอื่น หากผู้ขอใช้บริการทำให้เครื่องมือเพื่อการทำรายการตกอยู่ในความครอบครองของบุคคลใดหรือบุคคลใดสามารถเข้าถึงได้ ผู้ขอใช้บริการจะต้องรับผิดชอบต่อการทำรายการใดๆ ผ่านเครื่องมือเพื่อการทำรายการนั้น
  • 2.3 ผู้ขอใช้บริการสามารถเปลี่ยนแปลง รหัสผ่าน (Password), PIN – Person Identification Number และ/หรือรหัสอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใช้บริการ E-Wallet เมื่อใดก็ได้ โดยดำเนินการตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
  • 2.4 กรณีที่รหัสประจำตัวของผู้ขอใช้บริการ ชำรุด สูญหาย หรือถูกโจรกรรม ผู้ขอใช้บริการต้องแจ้ง และ/หรือ ขอระงับธุรกรรม และ/หรือ การใช้บริการ E-Wallet และ/หรือ ขออายัดหรือระงับการใช้รหัสประจำตัวดังกล่าวทันทีโดยติดต่อธนาคารที่ TOYOTA Wallet Customer Care โทร. 0-2660-5500 ธนาคารจะดำเนินการระงับธุรกรรม และ/หรือ การใช้บริการ E-Wallet และ/หรือ อายัดหรือระงับการใช้รหัสประจำตัวดังกล่าวในทันทีที่ผู้ขอใช้บริการผ่านกระบวนการตรวจสอบตัวตนตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนดแล้ว ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการยอมรับว่าการทำธุรกรรมใด ๆ หรือการใช้บริการ E-Wallet ผ่านรหัสประจำตัวของผู้ขอใช้บริการก่อนที่ธนาคารจะได้ทำการระงับธุรกรรม และ/หรือ การใช้บริการ E-Wallet และ/หรือ อายัดหรือระงับการใช้รหัสประจำตัวดังกล่าวนั้น ให้มีผลผูกพันผู้ขอใช้บริการ และผู้ขอใช้บริการตกลงรับผิดชอบทุกประการ

    อนึ่ง ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมชำระค่าใช้จ่ายทุกประเภทอันเกี่ยวเนื่องกับการขอระงับธุรกรรม และ/หรือ การใช้บริการ E-Wallet และ/หรือ ขออายัดหรือระงับการใช้รหัสประจำตัวดังกล่าว ทั้งสิ้นทุกประการ


3. การใช้บริการ e-Wallet

  • 3.1 ผู้ขอใช้บริการสามารถใช้บริการ E-Wallet ได้ต่อเมื่อผู้ขอใช้บริการได้ลงทะเบียนและขอใช้บริการ E-Wallet ตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด รวมทั้งได้รับอนุมัติจากธนาคารให้เป็นผู้ขอใช้บริการด้วย โดยผู้ขอใช้บริการต้องผูกพันและปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดขึ้น และ/หรือ ข้อกำหนดและเงื่อนไขตามแต่ละฟังก์ชันและ/หรือประเภทรายการที่ปรากฏขึ้นก่อน และ/หรือ ระหว่างที่ผู้ขอใช้บริการทำรายการ (ถ้ามี) ด้วย ทั้งนี้ ให้ถือว่าข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ด้วย อนึ่ง ผู้ขอใช้บริการสามารถขอใช้บริการ E-Wallet บนเครื่องมือเพื่อการทำรายการในระยะเวลาหนึ่งๆ ได้ 1 (หนึ่ง) เครื่องเท่านั้น
  • 3.2 ในการเข้าใช้บริการ E-Wallet ผู้ขอใช้บริการต้องใส่รหัสประจำตัวให้ถูกต้อง พร้อมทั้งปฏิบัติตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขการใช้บริการที่ ธนาคารกำหนดอย่างถูกต้องครบถ้วนทุกครั้ง และหากใส่รหัสประจำตัวไม่ถูกต้องเกินจำนวนครั้งที่ธนาคารกำหนด (แล้วแต่กรณี) ระบบจะระงับการให้บริการชั่วคราว โดยผู้ขอใช้บริการต้องติดต่อธนาคารที่ TOYOTA Wallet Customer Care โทร. 0-2660-5500 และ/หรือช่องทางอื่นใดตามที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการตกลงว่าการระงับการให้บริการชั่วคราวดังกล่าวจะไม่มีผลเป็นการยกเลิกการทำรายการที่เป็นการทำคำสั่งไว้ล่วงหน้า และ/หรือ รายการที่ทำเสร็จสิ้นตามขั้นตอนการใช้บริการ E-Wallet แล้ว และผู้ขอใช้บริการตกลงจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ กับธนาคารทั้งสิ้น
  • 3.3 ผู้ขอใช้บริการสามารถเข้าใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ในบริการ E-Wallet ดังต่อไปนี้ และ/หรือ ที่ธนาคารจะกำหนดเพิ่มเติมในภายหน้า ได้ตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ตลอด 24 ชั่วโมง หรือตามเวลาที่ธนาคารจะกำหนดไว้สำหรับแต่ละฟังก์ชัน หรือตามเวลาอื่นใดที่ธนาคารจะกำหนดเพิ่มเติมในภายหน้า
    • 3.3.1 การชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการ
      • (1) การชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการด้วยเงินใน E-Wallet
        • (1.1) ในการนำเงินเข้า E-Wallet ผู้ขอใช้บริการจะต้องเติมเงินโดยการหักเงินจากบัญชีเงินฝากผ่าน SCB Easy Application หรือผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารพาณิชย์อื่นตามที่ธนาคารกำหนด หรือเติมเงินโดยวิธีอื่นใดตามที่ธนาคารจะกำหนดเพิ่มเติมในภายหน้า ทั้งนี้ วงเงินสูงสุดในการเติมเงินเข้า E-Wallet จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ต่อหนึ่งรายการและต่อวัน ทั้งนี้ จะต้องรวมกันไม่เกิน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) ต่อเดือนตามปฏิทิน และยอดเงินคงเหลือสูงสุดในแต่ละขณะของ E-Wallet จะต้องไม่เกิน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) หรือตามจำนวนเงินอื่นใดที่ธนาคารกำหนดเปลี่ยนแปลงในภายหน้าซึ่งจะแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบต่อไป ทั้งนี้ ในกรณีการเติมเงินเข้า E-Wallet ครั้งใดมีจำนวนเงินสูงกว่าที่ธนาคารกำหนด หรือจะมีผลให้ยอดรวมเงินคงเหลือใน E-Wallet ในขณะนั้น ๆ มีจำนวนเงินสูงกว่าที่ธนาคารกำหนด ระบบจะปฏิเสธรายการเติมเงินในครั้งนั้นทั้งจำนวนโดยไม่ถือเป็นความผิดของธนาคารแต่อย่างใด

          ผู้ขอใช้บริการไม่สามารถเบิกถอนเงินจาก E-Wallet และ/หรือ โอนเงินจาก E-Wallet ไปยัง กระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ของบุคคลอื่นได้ โดยหากผู้ขอใช้บริการประสงค์จะนำเงินออกจาก E-Wallet ผู้ขอใช้บริการจะต้องโอนเงินดังกล่าวไปยังบัญชีรับเงินก่อน ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการจะไม่ได้รับดอกเบี้ยสำหรับจำนวนเงินที่อยู่ใน E-Wallet ทุกขณะ ไม่ว่าในระหว่างวันหรือในขณะที่ธนาคารไม่สามารถโอนเงินจาก E-Wallet ไปยังบัญชีรับเงิน ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ

        • (1.2) ในการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการผ่าน E-Wallet ธนาคารจะดำเนินการหักเงินค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการดังกล่าวออกจากยอดเงินคงเหลือใน E-Wallet ตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนดทันที ทั้งนี้ วงเงินสูงสุดในการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการผ่าน E-Wallet จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ต่อหนึ่งรายการและต่อวัน ทั้งนี้ จะต้องรวมกันไม่เกิน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) ต่อเดือนตามปฏิทิน หรือตามจำนวนเงินอื่นใดที่ธนาคารกำหนดเปลี่ยนแปลงในภายหน้า ในกรณีที่ยอดเงินคงเหลือใน E-Wallet มีจำนวนไม่เพียงพอกับค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการ ระบบจะยกเลิกรายการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
        • (1.3) ในการนำเงินออกจาก E-Wallet ผู้ขอใช้บริการจะต้องโอนเงินไปยังบัญชีรับเงินเท่านั้น โดยผู้ขอใช้บริการจะต้องทำรายการโอนเงินคงเหลือออกผ่านบริการ E-Wallet หรือติดต่อธนาคารผ่าน SCB Call Center โทร.02-777-7777 และดำเนินการตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีการดำเนินการผ่าน SCB Call Center ผู้ขอใช้บริการจะต้องโอนเงินตามยอดเงินคงเหลือใน E-Wallet ทั้งหมด โดยไม่สามารถโอนเงินเพียงบางส่วนได้

          เมื่อผู้ขอใช้บริการทำรายการขอโอนยอดเงินคงเหลือใน E-Wallet เข้าบัญชีรับเงินสำเร็จ ผู้ขอใช้บริการจะไม่สามารถชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการตามจำนวนเงินที่ทำรายการโอนเงินออกจาก E-Wallet ดังกล่าวได้ และธนาคารจะดำเนินการโอนเงินไปยังบัญชีรับเงินโดยระบบอัตโนมัติ ตามเวลาที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินจาก E-Wallet ไปยังบัญชีรับเงินได้ผ่านการแจ้งเตือนใน Application และ/หรือตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด และ/หรือ ช่องทางอื่นใดตามที่ธนาคารจะกำหนดเพิ่มเติมในภายหน้า นอกจากนี้ ผู้ขอใช้บริการสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินดังกล่าวได้จากสมุดเงินฝาก และ/หรือ รายการเดินบัญชี (Statement) ได้ด้วยตนเอง

          ในกรณีที่ธนาคารไม่สามารถโอนเงินออกจาก E-Wallet ไปยังบัญชีรับเงินที่กำหนดโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีที่โอนเงินไม่ได้ดังกล่าวทั้งสิ้น ทั้งนี้ ในการโอนเงินออกจาก E-Wallet ไปยังบัญชีรับเงินจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการบัญชีเงินฝากของธนาคารด้วย

      • (2) การชำระค่าสินค้า และ/หรือ ค่าบริการด้วยบัตรเครดิต
        • (2.1) ในการเพิ่มบัตรเครดิต ผู้ขอใช้บริการต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิต และดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนด
        • (2.2) เมื่อผู้ขอใช้บริการทำรายการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการด้วยบัตรเครดิต ธนาคารจะใช้วงเงินบัตรเครดิตตามรายการดังกล่าวในทันที ในกรณีที่วงเงินบัตรเครดิตมีจำนวนไม่เพียงพอกับค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการ ระบบจะยกเลิกรายการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
      • (3) การชำระค่าสินค้า และ/หรือ ค่าบริการด้วยบัตรเดบิต
        • (3.1) ในการเพิ่มบัตรเดบิต ผู้ขอใช้บริการต้องกรอกข้อมูลบัตรเดบิต และดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนด
        • (3.2) เมื่อผู้ขอใช้บริการทำรายการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการด้วยบัตรเดบิต ธนาคารจะหักเงินค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการดังกล่าวจากยอดเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการ ตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนดทันที ในกรณีที่ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการที่ผูกกับบัตรเดบิตดังกล่าวมีจำนวนไม่เพียงพอกับค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการ ระบบจะยกเลิกรายการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
      • (4) การสร้าง QR Code เพื่อชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการ
        • ในการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการ ผู้ขอใช้บริการสามารถสร้าง QR Code เพื่อชำระค่าสินค้า และ/หรือ ค่าบริการ โดยให้ผู้รับชำระเงินสแกน QR Code ดังกล่าวได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนด
    • 3.3.2 การคืนเงิน หรือยกเลิกรายการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการ

      กรณีที่ผู้ขอใช้บริการได้ชำระเงินค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการให้แก่ผู้รับชำระเงินเกินกว่าจำนวนที่ต้องชำระจริง หรือกรณีที่ผู้ขอใช้บริการประสงค์จะยกเลิกรายการชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการที่มีการชำระเงินผ่านบริการ E-Wallet ผู้ขอใช้บริการจะต้องแจ้งผู้รับชำระเงินและดำเนินการตามขั้นตอนที่ผู้รับชำระเงินและธนาคารกำหนด เพื่อให้ผู้รับชำระเงินดำเนินการคืนเงิน หรือยกเลิกรายการดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการจะต้องดำเนินการยกเลิกรายการภายในวันที่ชำระค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการนั้น ๆ เท่านั้น และเมื่อผู้รับชำระเงินทำรายการคืนเงินหรือยกเลิกรายการดังกล่าวสำเร็จ ธนาคารจะดำเนินการคืนเงินให้แก่ผู้ขอใช้บริการโดยนำเงินเข้า E-Wallet ของผู้ขอใช้บริการ คืนวงเงินบัตรเครดิตที่ทำรายการดังกล่าว หรือนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ขอใช้บริการที่ผูกกับบัตรเดบิตที่ทำรายการดังกล่าว (แล้วแต่กรณี) เว้นแต่ธนาคารจะกำหนดเป็นอย่างอื่น

      ผู้ขอใช้บริการจะต้องไม่ชำระเงินผ่านบริการ E-Wallet แทนการชำระหนี้ซึ่งไม่ได้เกิดจากการซื้อสินค้าและ/หรือบริการจากผู้รับชำระเงิน

    • 3.3.3 การตรวจสอบรายงานรายการธุรกรรมของ E-Wallet

      ผู้ขอใช้บริการสามารถตรวจสอบยอดเงินคงเหลือใน E-Wallet และรายการการชำระเงินแต่ละรายการได้ผ่านฟังก์ชันการตรวจสอบรายงานธุรกรรม และ/หรือ ฟังก์ชันการแจ้งเตือนผ่าน Application และ/หรือ สามารถตรวจสอบผ่านช่องทางอื่นใดตามที่ธนาคารจะกำหนดเพิ่มเติมในภายหน้า

    • 3.3.4 การจัดการเกี่ยวกับ E-Wallet
      • (1) ผู้ขอใช้บริการสามารถมี E-Wallet กับธนาคารได้เพียงหนึ่ง (1) E-Wallet หรือตามจำนวนอื่นใดที่ธนาคารกำหนดเปลี่ยนแปลงในภายหน้า โดยหนึ่ง (1) E-Wallet ผูกได้กับหนึ่ง (1) บัญชีรับเงินเท่านั้น
      • (2) ผู้ขอใช้บริการสามารถเปลี่ยนแปลงบัญชีรับเงินได้ตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนด ในการนำเงินออกจาก E-Wallet ภายหลังจากที่ผู้ขอใช้บริการทำรายการเปลี่ยนแปลงบัญชีรับเงินสำเร็จแล้ว ธนาคารจะโอนเงินจาก E-Wallet เข้าบัญชีรับเงินที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าว เว้นแต่ธนาคารจะมีข้อกำหนดเป็นอย่างอื่นในภายหน้า
      • (3) ผู้ขอใช้บริการจะต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลใด ๆ ให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ตามขั้นตอนและวิธีการที่ธนาคารกำหนด
      • (4) ธนาคารจะส่งข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับบริการ E-Wallet ให้แก่ผู้ขอใช้บริการผ่านทาง E-mail address ที่ผู้ขอใช้บริการให้ไว้กับธนาคารในการขอใช้บริการ E-Wallet เท่านั้น
  • 3.4 ในการใช้บริการ E-Wallet นี้ เป็นส่วนหนึ่งของ Application ของ Toyota ซึ่งผู้ขอใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ Application นอกเหนือจากข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ด้วย
  • 3.5 ผู้ขอใช้บริการตกลงชำระค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ E-Wallet นี้ (หากมี) ตามที่ธนาคารกำหนดและแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบ รวมทั้งตกลงชำระภาษีอากร (หากมี)
  • 3.6 เนื่องจาก E-Wallet ภายใต้บริการ E-Wallet นี้ จะต้องผูกกับบัญชีรับเงินเท่านั้น ดังนั้น ในกรณีที่ศาล หน่วยงานที่มีอำนาจ พนักงานสอบสวน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีคำสั่งให้ธนาคารอายัด และ/หรือ นำส่งเงินในบัญชีรับเงิน ธนาคารมีความจำเป็นต้องอายัด และ/หรือ นำส่งเงินใน E-Wallet ตามคำสั่งดังกล่าวเช่นเดียวกัน

4. ความสมบูรณ์ของการใช้บริการ หรือธุรกรรม และผลผูกพันผู้ขอใช้บริการ

  • 4.1 วิธีการดำเนินการใด ๆ ผ่านบริการ E-Wallet ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้เป็นวิธีการที่น่าเชื่อถือและยอมรับได้ระหว่างผู้ขอใช้บริการและธนาคาร รวมทั้งผู้ขอใช้บริการรับรองว่าเอกสาร และ/หรือ ข้อมูลใด ๆ ที่ธนาคารได้รับจากผู้ขอใช้บริการด้วยวิธีการดังกล่าวนั้นเป็นเอกสาร และ/หรือ ข้อมูลที่เชื่อถือได้และถูกต้องแท้จริงเสมือนเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรทุกประการ และใช้บังคับได้ระหว่างผู้ขอใช้บริการ ธนาคาร และผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งนี้ ธนาคารไม่ต้องตรวจสอบรายละเอียดใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายการนั้น ๆ ว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ด้วย
  • 4.2 การกระทำใด ๆ ผ่านบริการ E-Wallet ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการใช้ฟังก์ชันใด ๆ ก็ตาม หากได้กระทำไปโดยการใช้รหัสประจำตัว ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้แล้ว ให้ถือว่าถูกต้องสมบูรณ์และผูกพันผู้ขอใช้บริการทุกประการ โดยผู้ขอใช้บริการไม่ต้องลงลายมือชื่อในเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้น และผู้ขอใช้บริการตกลงรับผิดชอบการกระทำดังกล่าวเสมือนหนึ่งว่าผู้ขอใช้บริการเป็นผู้กระทำด้วยตนเอง ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยผู้ขอใช้บริการหรือบุคคลใด และไม่ว่าจะด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม
  • 4.3 ธนาคารมีสิทธิให้ผู้ขอใช้บริการจัดทำเอกสารเพิ่มเติมตามรูปแบบและภายในระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด และส่งมอบเอกสารดังกล่าวให้แก่ธนาคาร
  • 4.4 ผู้ขอใช้บริการจะเปลี่ยนแปลง หรือระงับ หรือยกเลิก รายการภายหลังจากที่ได้จัดส่งรายการนั้น ๆ ให้แก่ธนาคาร ผ่านบริการ E-Wallet แล้วไม่ได้ ยกเว้นกรณีการยกเลิกรายการตามข้อ 3.3.2 ข้างต้น หรือกรณีอื่นใดตามที่ธนาคารจะกำหนดเพิ่มเติมในภายหน้า
  • 4.5 ในกรณีที่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นแก่ธนาคาร และ/หรือ บุคคลใด ๆ อันเนื่องมาจากการให้บริการหรือการดำเนินการใด ๆ ตามความประสงค์ของผู้ขอใช้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ โดยมิใช่ความผิดของธนาคาร หรือในกรณีที่ผู้ขอใช้บริการใช้บริการเพื่อกิจการใดซึ่งขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เช่น ทำรายการผ่านบริการ E-Wallet เพื่อชำระหนี้ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน การซื้อขายอาวุธ หรือสนับสนุนการก่อการร้าย เป็นต้น ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมรับผิดชอบชดใช้บรรดาค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทุกประการ
  • 4.6 ผู้ขอใช้บริการตกลงผูกพันปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไข และ/หรือ ค่าธรรมเนียม ค่าใช้บริการ และค่าใช้จ่าย ที่ธนาคารจะมีการแก้ไข เปลี่ยนแปลง และ/หรือ เพิ่มเติมในภายหน้า ซึ่งธนาคารจะแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบล่วงหน้าทาง Application และ/หรือผ่านระบบบริการ E-Wallet และ/หรือ มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ขอใช้บริการ และ/หรือ โดยวิธีการอื่นใดที่ธนาคารเห็นสมควร ไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนการเพิ่มหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับ ยกเว้นการแก้ไข เปลี่ยนแปลง และ/หรือ เพิ่มเติมที่ส่งผลให้ผู้ขอใช้บริการเกิดภาระหรือความเสี่ยงเพิ่มเติมตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ธนาคารต้องได้รับความยินยอมจากผู้ขอใช้บริการก่อน
  • 4.7 ผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับผูกพันและปฏิบัติตามระเบียบ ข้อกำหนดและเงื่อนไข รวมถึงคู่มือ และเอกสารอธิบายวิธีการใช้บริการตามที่ธนาคารกำหนด ซึ่งผู้ขอใช้บริการได้รับหรือถือว่าได้รับไว้แล้วในวันที่ทำคำขอใช้บริการ รวมทั้งตามที่ธนาคารจะได้กำหนดเพิ่มเติม แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงในภายหน้า ซึ่งให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ด้วย
  • 4.8 กรณีที่บัญชีเงินฝากที่ใช้เป็นบัญชีรับเงินได้เปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ผู้ขอใช้บริการตกลงให้ข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ยังคงมีผลใช้บังคับสำหรับบัญชีเงินฝากที่ได้เปลี่ยนแปลงนั้น ๆ ด้วย ทั้งนี้ หากผู้ขอใช้บริการประสงค์จะปิดบัญชีเงินฝากที่ใช้เป็นบัญชีรับเงิน ผู้ขอใช้บริการตกลงว่าผู้ขอใช้บริการจะปิดบัญชีเงินฝากดังกล่าวได้ต่อเมื่อไม่มีเงินคงเหลือใน E-Wallet ของผู้ขอใช้บริการแล้ว

5. การดำเนินการกรณีพบข้อผิดพลาด

ในกรณีที่ผู้ขอใช้บริการพบว่ามีข้อผิดพลาดหรือมีความผิดปกติใด ๆ ในการใช้บริการ E-Wallet ทั้งนี้ โดยไม่รวมถึงการใช้บริการ Application ของ Toyota ผู้ขอใช้บริการจะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบโดยเร็วที่ TOYOTA Wallet Customer Care โทร. 0-2660-5500 โดยอย่างน้อยต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับวันและเวลาที่ทำรายการ และ/หรือ รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม และ/หรือ ข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับการทำรายการที่มีข้อผิดพลาดดังกล่าวตามที่ธนาคารกำหนด โดยธนาคารและผู้ขอใช้บริการจะร่วมมือกันดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบสวนหาสาเหตุของข้อผิดพลาด รวมถึงแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวโดยเร็ว ทั้งนี้ ธนาคารจะแจ้งผลการดำเนินการให้ผู้ขอใช้บริการทราบตามวิธีการและช่องทางที่ธนาคารเห็นสมควร เช่น ทางโทรศัพท์ หรือไปรษณีย์ หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือโดยวิธีการและช่องทางอื่นใดที่ธนาคารจะได้กำหนดเพิ่มเติม


6. ความรับผิดและข้อยกเว้นความรับผิดของธนาคาร

  • 6.1 บรรดาการกระทำใด ๆ ที่ธนาคารได้กระทำไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ และ/หรือ ตามข้อมูลที่ผู้ขอใช้บริการได้แจ้งต่อธนาคาร และ/หรือ ตามคำร้องขอของผู้ขอใช้บริการ และ/หรือ ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการใด ๆ ของธนาคาร ไม่ว่าที่มีอยู่แล้วในขณะนี้หรือที่จะมีขึ้นในภายหน้า ให้มีผลผูกพันผู้ขอใช้บริการทุกประการ และธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ อันเกิดขึ้นแก่ผู้ขอใช้บริการ และ/หรือ บุคคลใด ๆ ไม่ว่าจะโดยประการใดทั้งสิ้น
  • 6.2 ผู้ขอใช้บริการตกลงและยอมรับว่า ธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบในความผิดพลาด ความบกพร่อง หรือเหตุขัดข้องในการใช้บริการ E-Wallet นี้ อันเนื่องมาจากการที่ผู้ขอใช้บริการใช้เครื่องมือเพื่อการทำรายการไม่เป็นไปตามที่ Toyota หรือธนาคารกำหนด หรือใช้บริการ Application ของ Toyota ไม่เป็นไปตามที่ Toyota กำหนด หรือเกิดจากเหตุสุดวิสัย หรือเหตุอื่นใดที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของธนาคาร
  • 6.3 ในกรณีที่มีข้อขัดแย้งหรือข้อพิพาทระหว่างผู้ขอใช้บริการและผู้รับชำระเงิน และ/หรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบริการ E-Wallet นี้ ผู้ขอใช้บริการจะต้องใช้ความพยายามในการยุติข้อพิพาทดังกล่าวด้วยตนเอง รวมทั้งจะไม่กระทำการใด ๆ อันมีผลให้ธนาคารต้องเข้ามีส่วนร่วมในข้อพิพาทใด ๆ ระหว่างผู้ขอใช้บริการกับผู้รับชำระเงิน และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบริการ E-Wallet นี้
  • 6.4 ในกรณีที่ธนาคารได้นำเงินเข้า E-Wallet และ/หรือ บัญชีรับเงินตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้แล้ว ปรากฏในภายหลังว่าผู้ขอใช้บริการปฏิบัติผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ หรือเป็นการนำเงินเข้า E-Wallet และ/หรือ บัญชีรับเงินผิด หรือเกิดจากความผิดพลาดไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ หรือด้วยเหตุอื่นใดก็ตาม ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้ธนาคารดำเนินการแก้ไขจำนวนเงินใน E-Wallet และ/หรือบัญชีรับเงินให้ถูกต้อง โดยยินยอมให้ธนาคารโอนเงินและ/หรือหักเงินจาก E-Wallet และ/หรือ บัญชีรับเงิน รวมทั้งยินยอมให้ธนาคารดำเนินการแก้ไขรายการ (REVERSE) ที่ไม่ถูกต้องนั้นได้ด้วย ทั้งนี้ ธนาคารไม่ต้องแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการให้ทราบล่วงหน้า และไม่ต้องจัดทำหลักฐานอื่นใดระหว่างกันอีก

7. การระงับ และ/หรือ การยกเลิกการให้บริการ

  • 7.1 ธนาคารมีสิทธิที่จะไม่ให้บริการ หรือระงับชั่วคราว หรือยกเลิกการให้บริการหรือฟังก์ชันประเภทหนึ่งประเภทใด หรือทั้งหมด เมื่อใดก็ได้ โดยแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน เว้นแต่กรณีที่ธนาคารเห็นว่าการดำเนินการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ หรือการใช้บริการของผู้ขอใช้บริการอาจเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีพฤติการณ์อันน่าเชื่อว่ามีการใช้บริการหรือการทำรายการในลักษณะ Robot หรือโดยทุจริตหรือโดยมิชอบไม่ว่าด้วยประการใดๆ หรือมีเหตุจำเป็นอื่นใดซึ่งไม่อาจแจ้งล่วงหน้าได้ ธนาคารจะแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบโดยเร็ว
  • 7.2 กรณีผู้ขอใช้บริการประสงค์จะยกเลิกการใช้บริการไม่ว่าประเภทหนึ่งประเภทใดหรือทุกประเภทก็ตาม จะต้องทำรายการยกเลิกการใช้บริการ E-Wallet ผ่าน Application หรือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร หรือแจ้งผ่านช่องทางอื่นใดตามที่ธนาคารกำหนด เพื่อให้ธนาคารทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน ทั้งนี้ ธนาคารมีสิทธิเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายใดๆ อันเกี่ยวกับการใช้บริการ E-Wallet โดยหักเงินจาก E-Wallet และ/หรือ บัญชีรับเงินของผู้ขอใช้บริการได้จนกว่าจะมีการยกเลิกบริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้
  • 7.3 ในกรณีที่ข้อมูลที่ผู้ขอใช้บริการได้ให้ไว้แก่ธนาคารไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ผู้ขอใช้บริการตกลงให้ธนาคารมีสิทธิระงับชั่วคราว และ/หรือยกเลิกการขอใช้บริการเมื่อใดก็ได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น
  • 7.4 ผู้ขอใช้บริการตกลงและยอมรับว่า เมื่อเกิดเหตุดังต่อไปนี้ ธนาคารมีสิทธิที่จะระงับชั่วคราว และ/หรือ ยกเลิกการให้บริการ E-Wallet และ/หรือฟังก์ชันหนึ่งฟังก์ชันใด และ/หรือบริการหนึ่งบริการใดได้ รวมถึงการระงับการนำเงินเข้า E-Wallet และการโอนเงินจาก E-Wallet ไปยังบัญชีรับเงินได้ทันที โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบล่วงหน้า
    • 7.4.1 ผู้ขอใช้บริการตกเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ถูกพิทักษ์ทรัพย์ ถูกเจ้าพนักงานยึดหรืออายัดทรัพย์ หรือ
    • 7.4.2 มีเหตุทางกฎหมาย กฎระเบียบทางราชการ คำสั่งของศาล หน่วยงานที่มีอำนาจ พนักงานสอบสวน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีผลให้ธนาคารไม่อาจให้บริการได้ หรือ
    • 7.4.3 ข้อมูลที่ผู้ขอใช้บริการได้ให้ไว้แก่ธนาคารไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือไม่ตรงตามข้อเท็จจริง

8. การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล

  • 8.1 ธนาคารอาจมีการบันทึกบทสนทนาระหว่างผู้ขอใช้บริการกับธนาคาร และ/หรือ จัดเก็บ และ/หรือ บันทึก และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับ ผู้ขอใช้บริการ และ/หรือ รายการการใช้บริการ และ/หรือ การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของผู้ขอใช้บริการ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงและการให้บริการของธนาคาร และเพื่อเป็นหลักฐานการบริการและรายการใช้บริการ โดยผู้ขอใช้บริการตกลงและจะไม่โต้แย้งการใช้บันทึกการสนทนาและ/หรือข้อมูลดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานอ้างอิงต่อผู้ขอใช้บริการตามกฎหมาย
  • 8.2 ในการใช้บริการกับธนาคาร ธนาคารจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ และ/หรือ ของบุคคลอื่นที่ ผู้ขอใช้บริการได้ให้ข้อมูลไว้แก่ธนาคาร เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ และวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของธนาคาร โดยผู้ขอใช้บริการสามารถอ่านเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจถึงวิธีการที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคารที่ www.scb.co.th และ/หรือ ช่องทางที่ธนาคารกำหนด หรือตามที่ธนาคารจะเปลี่ยนแปลงในภายหน้าและแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบโดยประกาศในเว็บไซต์ดังกล่าว และ/หรือ ช่องทางที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ขอใช้บริการได้มีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น ผู้ขอใช้บริการมีหน้าที่แจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวดังกล่าวด้วย
  • 8.3 เพื่อประโยชน์ของผู้ขอใช้บริการในการใช้บริการ E-Wallet และ/หรือ การตรวจสอบรายการชำระเงินค่าสินค้าและ/หรือค่าบริการให้แก่ผู้รับชำระเงินผ่านระบบบริการ E-Wallet ธนาคารจะมีการส่ง โอน และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการทำธุรกรรม และ/หรือข้อมูลการใช้บริการ E-Wallet ของผู้ขอใช้บริการที่เกี่ยวข้องให้แก่ Toyota โปรดอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Toyota ที่เว็บไซต์ของ Toyota และ/หรือ ช่องทางที่ Toyota กำหนด
  • 8.4 เพื่อประโยชน์ของผู้ขอใช้บริการ ธนาคารอาจส่งข้อมูลข่าวสารในเชิงพาณิชย์ เช่น ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ข้อมูลทางการตลาด และรายการส่งเสริมการขาย เป็นต้น ไปยังที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น E-mail Address และหมายเลขโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น โดยผู้ขอใช้บริการสามารถบอกเลิกหรือปฏิเสธการรับข้อมูลดังกล่าวได้โดยติดต่อ SCB Call Center โทร.02-777-7777 หรือตามช่องทางที่ธนาคารกำหนด

9. ข้อมูลการติดต่อและการส่งคำบอกกล่าว

  • 9.1 เมื่อผู้ขอใช้บริการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ที่ใช้ในการติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร หรือ E-mail Address จากที่ระบุไว้เดิมในขณะขอใช้บริการ E-Wallet จะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบเป็นลายลักษณ์อักษรตามช่องทางและวิธีการที่ธนาคารกำหนด
  • 9.2 เอกสารหรือหนังสือใด ๆ ที่ธนาคารส่งไปยังผู้ขอใช้บริการ หรือผู้ติดต่อประสานงาน (Contact Person) (ถ้ามี) ตามที่อยู่ และ/หรือ E-mail Address ตามที่ผู้ขอใช้บริการแจ้งไว้ล่าสุดกับธนาคารแล้ว ให้ถือว่าผู้ขอใช้บริการได้รับโดยชอบแล้วและให้ถือว่าผู้ขอใช้บริการได้ทราบข้อความในเอกสาร หรือหนังสือนั้น ๆ แล้ว

10. กฎหมายที่ใช้บังคับ

ข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ให้ใช้บังคับและตีความตามกฎหมายไทย และให้ศาลไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการใช้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้